มานีมีสาระ

ท่องเที่ยว บันเทิง สาระความรู้

ประกาศผล สอบท้องถิ่น 2562

ประกาศผล สอบท้องถิ่น 2562
คลิ๊ก >>> https://dlaapplicant2562.com/ <<<





ตรวจหวย 16 มีนาคม 2562


ตรวจหวย 16 มีนาคม 2562

   ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ สลากกินแบ่ง

อะไรก็เกิดขึ้นได้..ถ้ามี "โด้" !! ยูเวนตุส จัด แอต ไป 3-0 ลิ่วแชมเปี้ยนส์ลีก (มีคลิป)


​ผลฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2018 - 2019
รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกที่สอง
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ronaldo


ยูเวนตุส 3-0 แอตเลติโก มาดริด
(รวมผลสองนัด ยูเวนตุส ชนะ 3-2)

Juventus vs Atlético de Madrid (3-0) AGG (3-2)
UEFA Champions League

ปราสาทโมริโอกะ Morioka Castle

ปราสาทโมริโอกะ Morioka Castle


                ดินเเดนอาทิตย์อุทัยอย่างญี่ปุ่นนั้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในดินเเดนที่มีความสวยงามเเละเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ชวนให้มาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง โดยหนึ่งในเเหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญเเละน่าสนใจก็คงจะหนีไม่พ้นปราสาทญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความมีเอกลักษณ์เเละสวยงามน่าสนใจเเละน่ามาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง โดยหนึ่งในปราสาทญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาดมาเที่ยวให้ได้ก็คือ ปราสาทโมริโอกะ ซึ่งเป็นปราสาทที่เต็มไปด้วยความสวยงามเเละน่ามาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

               Morioka Castle นั้นตั้งอยู่ที่เมืองโมริโอกะ ในจังหวัดอิวาเตะ ซึ่งอยู่ในเขตภูมิภาคโทโฮขุ เป็นอีปราสาทที่มีความเก่าเเก่โบราณ โดยสร้างมาตั้งเเต่ปี ค.ศ.1592 โดย นันบุ โนบุนาโอะ ไดเมียวที่ครอบครองดินเเดนในคุโนฮิ ฟุกุโอกะ โดยสร้างขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ในการเป็นจุดที่เอาไว้ควบคุมเส้นทางคมนาคมสำคัญระหว่างเเม่น้ำคิตาคามิเเละเเม่น้ำนากาทสึ โดยปราสาทมาสร้างเเล้วเสร็จในยุคของลุกชายของเขา เเละเป็นปราสาทที่ตั้งอยู่มาได้ตลอดช่วงยุคสมัยเอโดะ จนเข้าสู่ยุคเมจิ ปราสาทก็ถูกปล่อยร้างลง เเละปัจจุบันนั้นมีสภาพกลายเป็นเพียงเเค่ซากปราสาทที่ได้รับการดูเเลเเละปรับเเต่งให้สวยงามจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปเเล้ว

                 ทำเลที่ตั้งของ ปราสาทโมริโอกะ นั้นถือว่ามีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง เพราะอยู่ในจุดที่เเม่น้ำสองสายไหลขนาดกันเเละมีการสร้างคูน้ำโดยดึงน้ำจากเเม่น้ำมาเป็นน้ำในคูน้ำ พร้อมกับกำเเพงหินขนาดใหญ่ที่ยังคงทิ้งร่องรอยเอาไว้ ส่วนทางด้านของทางเดินหินก็สวยวามไม่เเพ้กับสะพานที่ข้ามเข้าสู่ตัวปราสาทที่เป็นสะพานไม้ เส้นทางเดินเข้าปราสาทก็มีลักษณะที่คดเคี้ยวเป็นอย่างยิ่ง เเละมีอาคารเก่าเเก่หลงเหลืออยู่อย่างอาคารที่เป็นหอระฆัง ก็ถือว่ามีความเเปลกเเละน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
อีกจุด

           

               นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยว Morioka Castle นั้นส่วนใหญ่เเล้วจะลองเดินตามเส้นทางเข้าปราสาทที่มีการบูรณะเอาไว้เป็นอย่างดี โดยตลอดเส้นทางจะได้พบกับเเนวกำเเพงหินขนาดใหญ่ เเละฐานรากของหอคอยกลางที่มีความสวยงามเเละสมบูรณ์ ส่วนบรรยากาศภายในนั้นก็นับว่ามีความร่มรื่นเเละน่ามาเดินเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

               สำหรับการเดินทางมาเที่ยวที่ ปราสาทโมริโอกะ นั้นสามารถใช้บริการของรถไฟสาย Tohoku Honsen โดยให้มาลงที่สถานีรถไฟโมริโอกะ  จากนั้นก็เดินต่อไปอีกประมาณ 15 นาทีก็จะถึงหน้าปราสาทเเล้ว นับว่าเป็นอีกหนึ่งในปราสาทที่มีการเดินทางมาถึงอย่างสะดวกสบายและน่ามาเที่ยวชมอย่างยิ่ง

อ้างอิงรูปภาพ
http://jcastle.info

ปราสาทมิโนวะ Minowa Castle

ปราสาทมิโนวะ Minowa Castle


                ญี่ปุ่นเป็นดินเเดนที่เต็มไปด้วยความสวยงามของเเหล่งท่องเที่ยวมากมายหลายต่อหลายเเห่งด้วยกัน เเละหนึ่งในเเหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของประเทศเเห่งนี้ก็คือ ปราสาทญี่ปุ่น ที่สวยงาม เเละดูเป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่ง โดยหนึ่งในปราสาทที่น่ามาเที่ยวชมเป็นอย่างมากอีกเเห่งก็คือ ปราสาทมิโนวะ ที่มีความน่าสนใจเเม้ว่าในปัจจุบันจะเหลือเพียงเเค่ซากปราสาทเเล้วก็ตาม เเต่ก็ติด 1 ใน 100 ปราสาทญี่ปุ่นที่น่าสนใจเเละน่ามาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

               Minowa Castle นั้นตั้งอยู่ที่เมืองทาคาซากิ ในจังหวัดกุนมะ เป็นอีกหนึ่งในปราสาทที่มีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว สร้างมาตั้งเเต่ปี ค.ศ.1500 โดย นากาโน่ นาริฮิสะ โดยตระกูลนากาโน่  ครอบครองปราสาทเเห่งนี้ต่อเนื่องถึง 4 ชั่วอายุคนด้วยกัน ก่อนที่ในปี ค.ศ.1566 ซึ่งเป็นยุคเซนโกกุ ทาเคดะ ชินเก็น จะเข้าโจมตีปราสาทเเห่งนี้ เเละถูกครอบครองโดยตระกุลทาเคดะ เเต่เมื่อ โอดะ โนบุนากะ เดินทัพเข้าบดขยี้ตระกูลทาเคดะจนล่มสลายเเล้ว ปราสาทหลังนี้ก็ตกมาอยู่ในการครอบครองของตระกุลโอดะเเทน เเละปราสาทเเห่งนี้ผลัดเปลี่ยนมือเจ้าของจาก ตระกุลโอดะ มาที่ตระกูลโฮโจ เเละสุดท้ายมาถูกตระกุลโทกุกาวะเข้ายึดครอง โดยมี อี นาโอมาสะ ขุนพลคนสำคัญที่ปกครองปราสาทเเห่งนี้เเละมีการขยายปราสาทจนใหญ่โตเเข็งเเกร่งเป็นอย่างยิ่ง ก่อนที่มันจะถูกทิ้งเอาไว้ไม่ใช้งาน เเละเสื่อมสลายตามกลาเวลา

                โครงสร้างของ ปราสาทมิโนวะ นั้นถือว่ามีขนาดที่ใหญ่โตเป็นอย่างยิ่ง เเละมีเเนวกำเเพงหินขนาดใหญ่ที่ปัจจุบันก็ยังคงเห็นได้อยู่เเม้ว่าจะเหลือเพียงเเค่ซากปราสาทเเล้วก็ตาม อีกทั้งยังมีจุดที่น่าสนใจอีกหลายจุดทั้งในส่วนของฐานปราสาทที่มีความยิ่งใหญ่เเละเเข็งเเกร่งเป็นอย่างยิ่ง จนกลายเป็นอีกหนึ่งในปราสาทที่น่าสนใจเเละน่ามาเที่ยวชม


                นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวที่นิยมในการมาชมความสวยงามของ Minowa Castle ที่ถึงเเม้จะมีเเค่ซากเเต่ก็ยังคงความเป็นปราสาทขนาดใหญ่อยู่ โดยบรรยากาศทั้งหมดนั้นปกคลุมไปด้วยต้นไม้ที่ขึ้นอยู่อย่างมากมายให้ความร่มรื่น เเละที่บริเวณด้านบนของปราสาทนั้นก็ยังคงสามารถชมความงดงามของวิวทิวทัศน์ของเมืองทาคาซากิ ได้อย่างชัดเจนอีกด้วย

               การเดินทางมาเที่ยวชมความสวยงามของ ปราสาทมิโนวะนั้นสามารถใช้บริการของรถไฟสาย Takasaki Line โดยให้มาลงที่สถานีรถไฟทาคาซากิ จากนั้นก็เดินต่อไปอีกประมาณ 15 นาทีก็จะถึงปราสาทที่สวยงามเเห่งนี้เเล้ว

อ้างอิงรูปภาพ
http://jcastle.info
   

ปราสาทมิโตะ Mito Castle

ปราสาทมิโตะ Mito Castle


                    การเดินทางท่องเที่ยวเพื่อชมความสวยงามของเเหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในญี่ปุ่นนั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งในกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเเละนิยมเป็นอย่างมาก โดยปราสาทญี่ปุ่น ก็เป็นอีกหนึ่งในเเหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในหมู่นักท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ เพราะความสวยงามเเละมีเอกลักษณ์ของปราสาทเหล่านี้ก็ทำให้กลายเป็นจุดดึงดูดที่สำคัญ โดยอย่างที่ ปราสาทมิโตะ ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งในปราสาทที่มีความสวยงามเเละน่าสนใจ

                 Mito Castle นั้นตั้งอยู่ที่เมืองมิโตะ ในจังหวัดอิบารากิ เป็นปราสาทที่สร้างอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองเเละเป็นอีกปราสาทที่ติดอับดับ 1 ใน 100 ปราสาทญี่ปุ่นที่มีความน่าสนใจเเละน่ามาเที่ยวชม มันถูกสร้างในปี ค.ศ.1214 โดย บาบะ ซุเกโมโตะ ซึ่งในช่วงเวลานั้นใช้ชื่อว่าปราสาทบาบะ เเละตระกุลบาบะปกครองปราสาทเเห่งนี้ต่อมาอีกกว่า 200 ปี จนเข้าสู่ยุคของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ที่ให้ ซาตาเกะ โยชิโนบุ เข้ามาปกครองปราสาทเเห่งนี้เเทน เเละหลังจากการศึกที่ทุ่งเซกิงาฮาระเเล้วเขาก็ได้ย้ายออกจากปราสาทเเห่งนี้ จนมาถึงสมัยของโชกุนคนที่ 5 ของตระกุลโทกุกาวะ ก็มองปราสาทเเห่งนี้ให้กับ ทาเคดะ โนบุโยชิ ปกครองปราสาทเเละบริเวณมิโตะ ก่อนเข้าสู่ช่วงปฏิรูปเมจินั้น ปราสาทก็ได้ถูกทำลายลงเหลือเอาไว้เพียงเเค่ป้อมปราการเเละประตู เเต่ก็มาถูกไปไหม้อีกครั้ง จนเกลือเพียงเท่าที่เห็นในปัจจุบัน

                ปราสาทมิโตะ นั้นมีโครงสร้างของปราสาทที่มีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ โดยมีหอคอยกลางเป็นจุดศูนย์กลางของปราสาท เเต่น่าเสียดายที่ในปัจจุบันนั้นปราสาทปราสาทเหลือเพียงเเค่บางส่วนเท่านั้นเอง เเต่เเนวกำเเพงเเละคูน้ำก็ยังได้รับการบูรณะเอาไว้ให้อย่างสวยงามเลยทีเดียว เเละน่ามาเที่ยวชมอีกด้วย ส่วนประตูใหญ่นั้นน่าจะเป็นเพียงเเค่จุดเดียวที่ยังคงเหลือมาถึงปัจจุบันนี้จากการสรางมากลายครั้งเเล้ว


                   นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยว Mito Castle สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกผ่านสะพานที่ข้ามคูน้ำในอดีตมายังเขตของประตูใหญ่ที่เป็นไม้ที่มีขนาดใหญ่โตสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ผ่านทางเดินหินเข้าไปยังด้านใน โดยจะพบกับอาคารหลายอาคารที่ได้รับการบูรณะ ซึ่งมีความสวยงามเเละน่ามานีเที่ยวชมอย่างยิ่ง ส่วนที่จุดฐานรากของหอคอยกลางก็เป็นจุดที่สามารถชมความงดงามของตัวเมืองได้อย่างชัดเจน

                  การเดินทางมาเที่ยวที่ ปราสาทมิโตะ  นั้นสามรถใช้บริการของรถไฟสาย  Joban Line โดยให้มาลงที่สถานีรถไฟมิโตะ จากนั้นก็เดินไปจากสถานีรถไฟอีกประมาณ 8 นาทีก็จะถึงเเล้ว

อ้างอิงรูปภาพ
http://jcastle.info

ปราสาทมารุโอกะ Maruoka Castle

ปราสาทมารุโอกะ Maruoka Castle


               ดินเเดนอย่างญี่ปุ่นนั้นมีความสวยงามเเละเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจมากมาย หลายต่อหลายเรื่องด้วยกัน โดยหนึ่งในนั้นก็คือบรรดา ปราสาทญี่ปุ่น ที่มีความสวยงามเเละเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่สร้างความประทับใจให้กับเหล่านักท่องเที่ยวที่ได้มาเยี่ยมชมหนึ่งในสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น โดยปราสาทญี่ปุ่นหลายเเห่งนั้นได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้ อย่างที่ ปราสาทมารุโอกะ ก็นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งในปราสาทญี่ปุ่นที่น่ามาเที่ยวชมไม่ใช่เล่น

               Maruoka Castle นั้นตั้งอยู่ที่เมืองซาไก ในจังหวัดฟูไน ซึ่งเป็นเมืองท่าเก่าเเก่ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งของญี่ปุ่นมาตั้งเเต่ครั้งอดีต โดยมันถูกสร้างในปี ค.ศ.1576 โดย ชิบาตะ คัตซุโทโย โดยในช่วงเเรกนั้นได้ชื่อว่าเป็นปราสาทคาซุมิกะ ก่อนจะเปลี่ยนชื่อในเวลาต่อ ปราสาทเเห่งนี้ถูกครอบครองโดยเหล่าไดเมียถึง 17 คนตลอดสมัยเอโดะ เเต่ได้รับความเสียหายอย่างหนักในเหตุการณ์เเผ่นดินไหวที่ฟุคุอิ ในปี ค.ศ.1948 เเละได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ.1955 โดยใช้วัสดุเดิมของปราสาทที่ถล่มลงมากกว่า 80% เเละที่เหลือเป็นการเสริมเข้าไปใหม่ ทำให้เป็นอีกปราสาทที่มีความสวยงามเเละยังคงความเก่าเเก่น่ามาเที่ยวชมสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง

               โครงสร้างของ ปราสาทมารุโอกะ นั้นมี 2 ระดับด้วยกัน โดยที่ส่วนของหอคอยปราสาทนั้นจะมีความสูงจำนวน 3 ชั้น ภายในนั้นเป็นโครงสร้างไม้ทั้งหมดที่ได้รับการเก็บรักษาเอาไว้เป็นอย่างดีโดยใช้วัสดุเดิมมาทำการบูรณะขึ้นมา ส่วนหลังคาที่เป็นกระเบื้อนั้นก็เป็นการสร้างขึ้นมาใหม่ในรูปเเบบเดิมซึ่งเป็นสไตล์เอโดะที่มีความสวยงาม โดยหากมองอย่างพินิจดีๆ เเล้วปราสาทเเห่งนี้มีความคล้ายคลึงกับปราสาทอินุยามะเป็นอย่างยิ่ง

 

                   นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชม Maruoka Castle นั้นจะต้องเดินขึ้นมาบนเนินเขาถึงจะพบกับตัวปราสาท เเต่ที่ด้านล่างเมื่อเข้าเขตของปราสาทก็จะได้พบกับอาคารไม้เก่าเเก่ที่ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ได้เข้าไปชมเรื่องราวของปราสาทที่จัดเเสดงเอาไว้อย่างมากมายเเล้ว ก็มีข้าวของเครื่องใช้ เเละอาวุธ รวมทั้งเกราะซามูไรตั้งเอาไว้ให้ได้ชมกัน ส่วนการชมปราสาทนั้นภายในนั้นจะยังคงสภาพเดิมเหมือนเมื่อครั้งปราสาทยังถูกใช้งานเพียงเเต่ไม่มีสิ่งของวางเอาไว้เป็นห้องโถงขนาดใหญ่ ส่วนบนสุดของหอคอยนั้นนักท่องเที่ยวสามารถชมความสวยงามของวิวทิวทัศน์เมืองซาไกในมุมสูงได้อย่างชัดเจน เนื่องจากปราสาทตั้งอยู่บนเนินสูงจึงทำให้เห็นวิวไกลถึงทะเล

                 การเดินทางมาเที่ยวที่ ปราสาทมารุโอกะ นั้นสามารถใช้บริการของรถไฟสาย Hokuriku Line โดยมาลงที่สถานีอาวาระ-ออนเซน หลังจากนั้นก็ให้ใช้บริการของรถบัสสาย Keifuk ที่จะไปยัง Hon-maruoka  โดยให้ลงที่ป้าย Shiro-iriguchi

อ้างอิงรูปภาพ
http://jcastle.info

ปราสาทมารุกาเมะ Marugame Castle

ปราสาทมารุกาเมะ Marugame Castle


                ดินเเดนอาทิตย์อุทัยอย่างญี่ปุ่นนั้นเต็มไปด้วยความสวยงามของเเหล่งท่องเที่ยวมากมายหลายต่อหลายเเห่งด้วยกัน หนึ่งในนั้นก็คือ ปราสาทญี่ปุ่น ที่เป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่เเสดงถึงเอกลักษณ์เเละความเป็นญี่ปุ่นอย่างมาก โดยหนึ่งในปราสาทที่น่าสนใจก็คือ ปราสาทมารุกาเมะ ที่โดดเด่นสวยงามทั้งตัวปราสาทเเละวิวทิวทัศน์ที่ได้รับการยอมรับว่างดงามเเละต้องสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ได้มาเยือนปราสาทเเห่งนี้อย่างเเน่นอน

                Marugame Castle นั้นตั้งอยู่บนเนินเขาสูงใจกลางเมืองมารุกาเมะ ในจังหวัดคากาว่า สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1597 โดย ไอโคม่า ชิกามาสะ ซึ่งเขาช่วงเวลานั้นเขาก็ครอบครองปราสาททามาโมะอีกหลังอีกด้วย เเต่หลังจากได้รับดินเเดนเเห่งนี้เพิ่มเติมเขาจึงให้ลูกชายปกครองปราสาททามาโมะ เเละตัวเขามาสร้างปราสาทเเห่งนี้ขึ้นมาใหม่เพื่อใช้ในการควบคุมเส้นทางการเดินเรือในทะเลเซโตะ เเต่ต่อมาเมื่อรัฐบาลโทกุกาวะมีการออกกฎหมายในเรื่องของการครอบครองปราสาท 1 เมือง 1 ปราสาท ทำให้ปราสาทเเห่งนี้ตกเป็นของ ยามาซากิ อิฮารุ ในปี ค.ศ.1641 เเละหลังจากนั้นปราสาทก็ผ่านเหตุการณ์ไฟไหม้เเละเหลือเพียงบางส่วนของปราสาทที่สำคัญมาจนถึงทุกวันนี้

                ปราสาทมารุกาเมะ นั้นเป็น 1 ใน 12 ประสาทที่ยังคงสมบูรณ์ตั้งเเต่สมัยเอโดะ โดยปัจจุบันนั้นส่วนที่สำคัญที่สุดที่เหลืออยู่คือส่วนของหอคอยปราสาทที่มีขนาดความสูง 3 ชั้น โดยมีโครงสร้างผนังสีขาว เเละมีกระเบื้องเก่าตามเเบบสไตล์เอโดะที่งดงามเเละน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ส่วนบริเวณโดยรอบนั้นจะเป็นที่โล่งกว้างไปหมดเเล้ว เพราะเเนวกำเเพงของปราสาท เเละอาคารอื่นๆ นั้นโดยทำลายลงหมดเเล้วในช่วงที่เกิดเหคุเพลิงไหม้


                   นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวยัง Marugame Castle นั้นส่วนใหญ่เเล้วจะมีชมความสวยงามของตัวหอคอยปราสาทที่มีความสวยงามเเละจะเดินขึ้นไปยังชั้นบนสุดของหอคอย เพื่อชมความงดงามของวิวทิวทัศน์ทะเลเซโตะ ที่เเสนจะงดงามเเละสร้างความประทับใจเป็นอย่างดีให้กับบรรดานักท่องเที่ยวที่ได้มาชมความงดงามของที่นี่ โดยปราสาทเเห่งนี้เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งเเต่เวลา 9.00 น. ถึง 16.30 น เเละเสียค่าเข้าชมคนละ 200 เยน

                   การเดินทางมาเที่ยวที่ ปราสาทมารุกาเมะ นั้นสามารถใช้บริการของรถไฟสาย JR Yosan Line โดยให้มาลงที่สถานีรถไฟมารุกาเมะ  เเล้วออกประตูทางด้านทิศใต้ของตัวสถานี จากนั้นก็เดินต่อไปอีกประมาณ 15 นาทีก็จะถึงตัวปราสาทเเล้ว นับว่าเป็นปราสาทที่มีความสวยงามและน่ามาเที่ยวชมอีกแห่งของญี่ปุ่น

อ้างอิงรูปภาพ
http://jcastle.info

ปราสาทมัตสุชิโร่ Matsushiro Castle

ปราสาทมัตสุชิโร่ Matsushiro Castle


                  ดินเเดนอาทิตย์อุทัยนั้นเต็มไปด้วยความสวยงามเเละเป็นอีกหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมเป็นอย่างมากในการมาเที่ยวชมความสวยงามของเเหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มากมายหลายต่อหลายเเห่ง โดยหนึ่งในเเหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในการมาเที่ยวชมก็คือ ปราสาทญี่ปุ่น ที่มีความสวยงามเเละมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของญี่ปุ่นสูงเป็นอย่างยิ่ง โดยมีปราสาทหลายต่อหลายหลังที่น่าสนใจ รวมถึง ปราสาทมัตสุชิโร่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในปราสาทที่มีความสวยงามเเละน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

                  Matsushiro Castle นั้นตั้งอยู่ในเมืองนากาโนะ ในจังหวัดนากาโนะ นับว่าเป็นปราสาทอีกเเห่งที่มีเรื่องราวของสงครามเกิดขึ้นมากมายเเละสวยงามน่าสนใจมาเที่ยวชม สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1560 โดย ทาเคดะ ชินเก็น เดิมชื่อว่าปราสาทไคซุ ซึ่งสมัยนั้นเป็นยุคเซนโกกุที่มีการรบพุ่งกันอย่างมากมาย เเละจุดประสงค์ในการสร้างปราสาทหลังนี้ขึ้นมาก็เพื่อเป็นการป้องกันคู่รักคู่เเค้นของเขาคือ อุเอสึงิ เคนชิน ซึ่งต่อสู้กันมาอย่างยาวนาน เเละเป็นการควบคุมพื้นที่บริเวณชินาโนะเอาไว้ เเต่หลังจากที่ ทาเคดะ ชินเก็น เสียชีวิตลง ปราสาทเเห่งนี้ก็ถูกเปลี่ยนมืออีกหลายครั้งด้วยกัน จนในปี ค.ศ.1622 ก็ตกมาอยู่ภายใต้การครอบครองของ ซานาดะ โนบุยูกิ เเละเมื่อถึงรุ่นที่ 3 ของตระกูลซานาดะที่ปกครองปราสาทเเห่งนี้จึงได้เปลี่ยนชื่อปราสาทมาเป็นมัตสุชิโร่ ปราสาทเเห่งนี้ตั้งตระหง่านมาได้อย่างยาวนานเเละมีถูกรื้อถอนลงในสมัยเมจิ ก่อนที่จะมีการบูรณะในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เเต่จุดหลักของปราสาทก็ยังไม่ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่

                  โครงสร้างของ ปราสาทมัตสุชิโร่ นั้นมีขนาดใหญ่เป็นอย่างยิ่ง เเละเป็นการก่อสร้างบนที่ราบ เป็นอีกหนึ่งปราสาทที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยในปัจจุบันนั้นมีการบูรณะตั้งเเต่คูน้ำรอบตัวปราสาทเเละเเนวกำเเพงของปราสาททั้งหมดที่เป็นส่วนผสมของไม้เเละหินขนาดใหญ่ โดยในส่วนของประตูใหญ่นั้นมีการบูรณะให้กลับมาเป็นดังเดิม ภายในของปราสาทในส่วนของตัวอาคารต่างๆ ก็มีการบูรณะให้กลับมามีสภาพที่เหมือนเดิม ยกเว้นในส่วนของหอคอยกลางที่ยังไม่ได้มีการบูรณะขึ้นมาเเต่อย่างใด


                  นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชม Matsushiro Castle นั้นนิยมเดินเที่ยวรอบเเนวคูน้ำ เพราะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นพื้นที่ราบ ส่วนประตูใหญ่ของปราสาทก็โดดเด่นเเละเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม ภายในของปราสาทมีหลายอาคารที่เป็นชั้นเดียว เเละเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดเเสดงเรื่องราวของปราสาทเเละตระกูลซานาดะ ซึ่งถือว่าเป็นตระกุลที่น่าสนใจเเละมีบทบาทช่วงเปลี่ยนยุคมาเป็นสมัยเอโดะอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวน่าจะใช้เวลาในการเที่ยวชมประมาณ 45 นาทีก็น่าจะครบทุกจุดเเล้ว

                 การเดินทางมาเที่ยวที่ ปราสาทมัตสุชิโร่ นั้นสามารถใช้บริการของรถไฟโดยมาลงที่สถานีนากาโน่ เเละให้ใช้บริการของรถบัสที่จะไปมัตสุชิโร่ ได้ที่ป้ายหน้าสถานี โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาร 30 นาที ก็จะมาถึงทางเข้าของปราสาทเเห่งนี้เเล้ว

อ้างอิงรูปภาพ
http://jcastle.info

ปราสาทมัตสึเอะ Matsue Castle

ปราสาทมัตสึเอะ Matsue Castle


                ดินเเดนอาทิตย์อุทัยอย่างญี่ปุ่นนั้นมีโอกาสได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากในเเต่ละปี ซึ่งเดินทางมาสัมผัสกับความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวมากมายเเละสัมผัสกับศิลปวัฒนธรรมที่เเสนจะสวยงามเเละเก่าเเก่ของญี่ปุ่น ที่มีหลายสิ่งที่น่าสนใจ โดยหนึ่งในนั้นก็คือ ปราสาทญี่ปุ่น ที่มีความน่าสนใจเเละมีเรื่องราวมากมายให้เล่าขานอย่างที่ ปราสาทมัตสึเอะ ก็นับว่าเป็นปราสาทที่มีความสวยงามเเละเก่าเเก่ รวมไปถึงกลายมาเป็นอีกหนึ่งเเหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากของญี่ปุ่นไปเเล้ว

                Matsue Castle ตั้งอยู่ที่เมืองมัตสึเอะ ในจังหวัดชิมาเนะ เป็นปราสาทที่มีความสวยงามเเละเก่าเเก่เป็นอย่างยิ่ง สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1611 โดยโฮริโอะ โยชิฮา โดยใช้ชื่อว่าปราสาทชิโดริ ในครั้งเเรก ซึ่งเขาได้ดินเเดนบริเวณรอบอิซูโมะมาจากการที่ร่วมทำศึกในเซกิงาฮาระ เเละปกครองโดยตระกูลโฮริโอะอยู่ 3 ชั่วคน ปราสาทก็ได้โอนมาให้อยู่ในการปกครองของ ตระกูลมัตสึไดระ จนกระทั่วเข้าสู่การปฏิรูปเมจิ ปราสาทเเห่งนี้จึงหมดความสำคัญลงเเละเป็นอีกหนึ่งในปราสาทที่ไม่ถูกทำลายลงในช่วงเวลานั้นเเต่อย่างใด โดยได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ.1950 โดยเงินบริจาคของชาวเมือง โดยเงินเหล่านั้นถูกมาสร้างเป็นประตูโอเดะม่อนที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง

                ปราสาทมัตสึเอะ นั้นถือว่าเป็น  ใน 12 ปราสาทของญี่ปุ่นที่เป็นแบบดั้งเดิมที่สร้างมาตั้งเเต่สมัยเอโดะ เป็นความงดงามทางด้านสถาปัตยกรรมเป็นอย่างยิ่ง ตัวหอคอยปราสาทนั้นมีความสูงกว่า 6 ชั้น ตกเเต่งด้วยสีดำทั้งหอคอย บริเวณโดยรอบนั้นจะเป็นลานกว้างที่มีการตกเเต่งด้วยสวนหย่อยไปเเล้ว โครงสร้างภายในนั้นได้รับการดูเเลเป็นอย่างดีเเละยังคงสภาพที่มีความเเข็งเเรงเป็นอย่างมากอีกด้วย นับว่าเป็นปราสาทเก่าเเก่ที่มีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง


               โดย Matsue Castle นั้นนักท่องเที่ยวจะชื่นชอบเป็นอย่างมากตั้งเเต่ประตูโอเตะม่อนที่มีความเก่าเเก่เเละงดงามเเม้ว่าจะสร้างขึ้นมาใหม่ หรือการเเสดงของเหล่าซามูไรที่บริเวณหน้าปราสาท ก็ช่วยสร้างสีสันได้เป็นอย่างดี ส่วนภายในของปราสาทนั้นได้รับการปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความน่าสนใจด้วยการจัดเเสดงเรื่องราวในอดีตของปราสาทเเห่งนี้ เเละมีการจัดเเสดงชุดเกราะซามูไร ดาบ เเละอาวุธ ต่างๆ อย่างมากมาย รวมทั้งบริเวณชั้นบนสุดของหอคอยนั้นก็เป็นที่ชมวิวที่น่าจะงดงามที่สุดอีกเเห่งของเมืองมัตสึเอะ โดยที่นี่เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งเเต่เวลา 8.30 น. จนถึงเวลา 18.30 น. โดยเสียค่าเข้าชมคนละ 560 เยน ส่วนบริเวณรอบปราสาทนั้นก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเพราะเป็นอาคารเก่าเเก่มากมายที่อดีตเป็นพำนักของเหล่าซามูไรที่ทำงานในปราสาท ซึ่งมีหลายหลังเปิดให้เข้าชมอีกด้วย เรียกว่าเป็นเมืองซามูไรอย่างเเท้จริง

               การเดินทางมาเที่ยวที่ ปราสาทมัตสึเอะ นั้นสามารถใช้บริการของรถไฟสาย San'in line โดยให้มาลงที่สถานีรถไฟเจอาร์ มัตสึเอะ จากนั้นก็เดินต่อไปอีกประมาณ 10 นาทีก็จะถึงเเล้ว หรือสามารถมาลงที่สถานีรถไฟ Ichibata Dentetsu's Matsue-Shinjiko-Onsen Station เเล้วใช้บริการของรถบัส Lake Line มาลงที่หน้าปราสาทได้เลย

อ้างอิงรูปภาพ
http://jcastle.info

ปราสาทมัตสึโมโต้ Matsumoto Castle

ปราสาทมัตสึโมโต้ Matsumoto Castle


               ปราสาทญี่ปุ่น นับว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่เเสดงออกถึงความเป็นญี่ปุ่นอย่างชัดเจนอีกสิ่งหนึ่งเลยทีเดียว เเละกลายเป็นจุดสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวยังดินเเดนเเห่งนี้ โดยในญี่ปุ่นนั้นมีปราสาทที่มีความสวยงามอยู่หลายเเห่งด้วยกัน โดยหนึ่งในปราสาทที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของความใหญ่โตเเละสวยงามเหมาะเเก่การมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่งเลยก็คือ ปราสาทมัตสึโมโต้ ที่เป็น 1 ใน 12 ปราสาทเก่าเเก่มาตั้งเเต่สมัยเอโดะของญี่ปุ่นที่ยังความความสมบูรณ์เอาไว้ได้จนถึงปัจจุบัน

               Matsumoto Castle หรือที่ได้รับฉายาว่า ปราสาทอีกา ตั้งอยู่ที่เมืองมัตสึโมโต้ ในจังหวัดนากาโน่ มีชื่อเดิมตั้งเเต่เริ่มเเรกสร้างในปี ค.ศ.1504 ว่า ปราสาทฟูคาชิ ซึ่งสร้างโดย ชิมาดาชิ ซาดานากะ เเต่ปราสาทเเห่งนี้ถูกโจมตีโดย ทาเคดะ ชินเก็น ในปี ค.ศ.1550 จนเสียหายอย่างหนัก ก่อนที่ในปี ค.ศ.1590 อิชิกาวะ คาซุมาสะ เเละลูกชายของเขาจะสร้างปราสาทเเห่งนี้ขึ้นมาบนฐานเดินของปราสาทฟูคาชิ เเละมีการปรับปรุงจนกลายเป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่เป็นรองเพียงเเค่ปราสาทฮิเมจิเท่านั้น โดยปราสาทเเห่งนี้อยู่รอดปลอดภัยมาอย่างยาวนานในสมัยเอโดะ ผ่านยุคเมจิ เเละเข้าสู่ญี่ปุ่นยุคใหม่หลังสงครามโลก โดยได้รับการบูรณะให้มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง เเละโดดเด่นเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น พร้อมกับได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติอีกด้วย

               ปราสาทมัตสึโมโต้ นั้นมีโครงสร้างเป็นไม้ทั้งหมดที่ยังคงสภาพได้ดีเป็นอย่างยิ่ง เเละได้รับการยอมรับว่าเป็นปราสาทไม้ที่เก่าเเก่ที่สุดในญี่ปุ่นที่ยังคงสภาพสมบูรณ์เอาไว้ได้ โดยมีการออกเเบบให้ไม้สีดำตัดกับผนังปูนสีขาวอย่างลงตัวเเละกลายเป็นความสวยงามที่โดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง คูน้ำโดยรอบของปราสาทก็มีขนาดใหญ่เป็นอย่างยิ่ง ทำให้มีความสวยงามเป็นอย่างมาก ส่วนประตูใหญ่นั้นก็ดูน่าเกรงขามเเละเเนวกำเเพงหินก็ใหญ่โตเป็นอย่างยิ่ง พร้อมกับป้อมปราการอีกหลายต่อหลายเเห่งด้วยกัน ส่วนหอคอยกลางนั้นมีความสูง 5 ชั้นด้วยกัน ถือว่าสูงเเละดูน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง


               นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยว Matsumoto Castle นอกจากการเดินเล่นในบริเวณปราสาทที่มีเเต่ความสวยงามเเละได้บรรยากาศของยุคเอโดะเเล้ว ยังให้ความนิยมในการขึ้นไปชมความสวยงามบนยอดสุดของหอคอยกลางอีกด้วย เพราะจากจุดนี้สามารถชมความสวยงามของเมืองมัตสึโมโต้ เเต่ที่โดดเด่นที่สุดก็คือการได้ชมความงดงามของจแปนแอลป์ ได้อย่างชัดเจนอีกด้วย นอกจากนี้จุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นอย่างมากก็คือ ศาลาชมจันทน์ ที่มีความสวยงามเเละเป็นอีกจุดที่เก่าเเก่ของปราสาท ส่วนสะพานที่มีสีเเดงก็โดดเด่นอีกเช่นกันโดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ต้นซากุระรอบปราสาทจะผลิบานงดงามเป็นอย่างมาก

             การเดินทางมาเที่ยวที่ ปราสาทมัตสึโมโต้ นั้นสามารถใช้บริการของรถไฟสาย เจอาร์ จูโอ โดยมาลงที่สถานีรถไฟมัตสึโมโต้ จากนั้นให้เลือกว่าจะเดินต่อไปโดยใช้เวลาอีกประมาณ 15 นาที หรือจะใช้บริการของรถบัสที่ป้ายหน้าสถานี เเล้วไปลงที่ป้ายหน้าปราสาทก็จะถึงเเล้ว

อ้างอิงรูปภาพ
http://jcastle.info

ปราสาทมัตสึเมะ Matsumae Castle

ปราสาทมัตสึเมะ Matsumae Castle


             ความงดงามทางศิลปวัฒนธรรมของญี่ปุ่นที่มีการสอดทอดมาเป็นเวลานานนั้นสะท้อนออกมาในรูปเเบบของงานสถาปัตยกรรมที่มีความเเข็งเเกร่งเเละเเฝงไว้ด้วยจิตวิญญาณของชาวญี่ปุ่น อย่าง ปราสาทญี่ปุ่น นับว่าเป็นหนึ่งในผลการรังสรรค์ที่น่าสนใจเเละหลายเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวญี่ปุ่นเเล้วต่างก็ต้องมาสัมผัสให้ได้ซักครั้ง โดยมีหลายปราสาทด้วยกันที่มีความสวยงามเเละเป็นที่สนใจของบรรดานักท่องเที่ยวอย่างที่ ปราสาทมัตสึเมะ ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งในปราสาทที่มีความสวยงามเเละเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ

             Matsumae Castle นั้นตั้งอยู่ที่เมืองมัตสึเมะ ในจังหวัดฮอกไกโด บนเกาะฮอกไกโด ถือว่าเป็นปราสาทเเห่งสุดท้ายในญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นตามรูปเเบบปราสาทญี่ปุ่นโบราณ โดยมันถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1849 โดย มัตสึเมะ ทาคาฮิโระ ไดเมียวที่ควบคุมพื้นที่ของฮอกไกโดเอาไว้ โดยเขาถูกสั่งจากรัฐบาลโชกุนโทกุกาวะในเวลานั้นให้สร้างปราสาทขึ้นมาเพื่อเป็นการป้องกันเเละควบคุมเส้นทางการคมนาคมระกว่างเกาะฮอกไกโดเเละเกาะฮอนชู เขาจึงเลือกทำเลทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโดเป็นจุดที่สร้างปราสาทเเห่งนี้ขึ้นมา เเต่ในช่วงเวลานั้นเขาไม่งบประมาณพอที่จะสร้างปราสาท จึงได้มีการนำวัสดุจากบ้านของเขาเองมาก่อสร้างเป็นปราสาทเเห่งนี้ เเต่ในเเล้วในช่วงสงครามโบชิน เมื่อกองทัพของรัฐบาลใหม่ได้เข้าโจมตีป้อมโงเรียวกาคุที่ฮาโกดาเตะ ปราสาทเเห่งนี้ก็ถูกโจมตีด้วยเช่นกัน เเต่ก็ได้รับการบูรณะใหม่ในภายหลัง เเละหลายเป็นอีกหนึ่งในปราสาทที่เป็นสมบัติของชาติในปัจจุบัน

              โครสร้างของ ปราสาทมัตสึเมะ นั้นมีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง เเละได้รับการบูรณะทั้งหมดอย่างงดงาม โดยเเบ่งออกเป็น 3 ส่วน โดยมีเเนวกำเเพงหินที่ทอดยาวเเละเเข็งเเกร่ง เเม้ว่าจะมีขนาดไม่สูงมากนัก ส่วนประตูต่างๆ ก็ทำจากไม้ โดยในส่วนของประตูใหญ่นั้นมีความสวยงามเเละเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชม ส่วนทางด้านของหอคอยของปราสาทก็มีความสูงจำนวน 3 ชั้น ได้รับการอนุรักษ์เอาไว้อย่างดีทุกส่วน ซึ่งชิ้นส่วนของปราสาทนั้นส่วนใหญ่เเล้วก็เป็นของดั้งเดิมที่นำมาบูรณะขึ้นมาใหม่


                นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินเที่ยวชมความสวยงามของ Matsumae Castle ตั้งเเต่เเนวกำเเพงที่ด้านนอกซึ่งมีการจัดเส้นทางไว้รอบเเนวกำเเพงปราสาท พอเข้ามาด้านในก็จะพบกับหอคอยของปราสาทที่มีความโดดเด่นเห็นเเต่ไกลเบนทีเดียว ถือว่าสวยงามเเละเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาชม เเละขึ้นมายังชั้นบนสุดของหอคอยเพื่อชมความงดงามของวิวทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นได้ไกลไปถึงทะเลเลยทีเดียว

               การเดินทางมาเที่ยวที่ ปราสาทมัตสึเมะ นั้นสามารถใช้บริการของรถไฟสาย Esashi Line โดยให้มาลงที่สถานีรถไฟคิโคไน

อ้างอิงรูปภาพ
http://jcastle.info

ปราสาทมัตสึซากะ Matsusaka Castle

ปราสาทมัตสึซากะ Matsusaka Castle



               เเหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มากมายในญี่ปุ่นนั้นมีความสวยงามเเละน่าสนใจหลายเเห่งด้วยกัน เเต่หนึ่งในเเหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากก็คือ ปราสาทญี่ปุ่น ที่มีความสวยงามเเละเเสดงออกถึงจิตวิญญาณของเหล่านักรบซามูไรในอดีต โดยหนึ่งในปราสาทที่มีความน่าสนใจเเละน่ามาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่งก็คือ ปราสาทมัตสึซากะ ที่มีความเก่าเเก่เเละน่าสนใจน่ามาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่งเลยก็ว่าได้

               Matsusaka Castle นั้นตั้งอยู่ที่เมืองมัตสึซากะ ในจังหวัดมิเอะ เป็นอีกหนึ่งในปราสาทที่มีความน่าสนใจของญี่ปุ่น มันถูกสร้างขึ้นมาตั้งเเต่ปี ค.ศ.1588 โดย กาเอม่อน อุจิซาโตะ โดยที่มีโครสร้างของปราสาทคล้ายคลึงกับปราสาทอาซุชิเป็นอย่างยิ่ง เเละมีการพัฒนาเมืองรอบๆ ตัวปราสาทให้กลายเป็นเมืองเเห่งการค้าเเละกลายเป็นปราสาทที่ควบคุมเส้นทางการค้าใหม่เซนกุ-ไคโด ปราสาทเเห่งนี้อยู่เรื่อยมาจนผ่านยุคเอโดะ เเละมาโดยทำลายลงในช่วงปฏิรูปเมจิ ก่อนที่จะมีการปรับเเต่งรอบปราสาทให้มีความสวยงามเเละน่ามาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

               โครงสร้างของ ปราสาทมัตสึซากะ เเต่เดิมนั้นหากดูจากซากปราสาทที่ยังหลงเหลือก็นับว่าเป็นปราสาทที่มีขนาดใหญ่เป็นอย่างยิ่ง เเละมีความเเข็งเเกร่งเป็นอย่างยิ่ง โดยกำเเพงหินนั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งเเนวกำเเพงที่มีขนาดใหญ่เป็นอย่างยิ่งเลยก็ว่าได้ ส่วนอื่นๆ ก็ถือว่ามีความน่าสนใจไม่น้อย เพราะมีทั้งเเนวคูน้ำ เเละเเนวฐานของอาคารสิ่งก่อสร้างต่างๆ อีกมากมายหลายจุดด้วยกัน โดยแต่ละจุดนั้นก็จะมีการเขียนคำอธิบายเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้รับข้อมูล


                นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวยัง Matsusaka Castle นั้นจะได้ชมกับความยิ่งใหญ่ของซากปราสาท ที่มีความยิ่งใหญ่เป็นอย่างยิ่ง โดยมีเเนวทางเดินหินที่จะพานักท่องเที่ยวเข้าสู่ตัวปราสาท ผ่านเเนวกำเเพงหินขนาดใหญ่ ขึ้นไปด้านบนจะมีฐานปราสาทขนาดใหญ่ที่เเสดงออกถึงขนาดของปราสาทในอดีต ส่วนอื่นๆ ในปราสาทนั้นก็มีความงดงามเป็นอย่างยิ่งด้วยต้นไม้ที่ปลูกเอาไว้อย่างต้นซากุระ ทำให้ในช่วงของฤดูใบไม้ผลินั้นจะมีดอกซากุระผลิบานเป็นจำนวนมาก เเละสร้างความสวยงามให้กับบรรยากาศในปราสาทเป็นอย่างดี

               การเดินทางมาเที่ยวที่ ปราสาทมัตสึซากะ นั้นสามารถใช้บริการของรถไฟมาลงที่สถานีรถไฟมัตสึซากะ จากนั้นสามารถใช้วิธีการเดินอีกประมาณ 15 นาทีก็จะถึงเเล้ว หรือใช้บริการของรถบัสจากป้ายหน้าสถานีรถไฟมาลงที่ป้าย Shimin-Byoin mae ก็จะถึงทางเข้าปราสาทเเล้ว นับว่าเป็นอีกหนึ่งในปราสาทที่มีความสะดวกในการเดินทางมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ้างอิงรูปภาพ
http://jcastle.info

ปราสาทเนะ Ne Castle

ปราสาทเนะ Ne Castle


                การเดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นของนักท่องเที่ยวหลายต่อหลายคนนั้นให้ความสนใจในการมาเที่ยวเเหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศนี้ หนึ่งในนั้นคือปราสาทญี่ปุ่นที่มีความสวยงามเเละเป็นเอกลักษณ์เป็นของตนเอง โดยหนึ่งในปราสาทที่ได้ชื่อว่ามีความน่าสนใจเเละน่ามาเที่ยวชมก็คือ ปราสาทเนะ ที่มีความเก่าเเก่เเละผ่านเรื่องราวมาอย่างโชกโชนทางด้านประวัติศาสตร์ โดยปัจจุบันนั้นก็ถือว่าเป็นปราสาทญี่ปุ่นโบราณที่ได้รับการบูรณะให้มีความสมบูรณ์เป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว

               Ne Castle นั้นตั้งอยู่ที่เมืองฮาชิโนะเฮะ ในจังหวัดอาโอโมริ นับว่าเป็นปราสาทที่มีความเก่าเเก่อีกเเห่งของญี่ปุ่น เเละได้รับการจัดอันดับอยู่ใน 100 ปราสาทญี่ปุ่นที่น่าสนใจเเละน่ามาชมอีกด้วย มันถูกสร้างขึ้นมาในช่วงปี ค.ศ.1334 โดย โมโรยูกิ นันบุ โดยช่วงเวลานั้นญี่ปุ่นถูกเเบ่งออกเป็นเหนือเเละใต้ โดยตระกูลนันบุนั้นเข้าร่วมกับทั้งฝ่ายเหนือเเละใต้ เเละเมื่อสิ้นสุดยุคของการเเบ่งเเยกโดยการเจรจาเเล้ว ปราสาทเเห่งนี้ก็กลายเป็นศูนย์กลางของตระกูล เเละสืบทอดการปกครองปราสาทมายาวนานถึง 18 รุ่นจนเข้าสู่ยุคเซนโกกุ ตระกูลนันบุเข้าร่วมกับโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ เเละทำศึกรวบรวมเเผ่นดินให้กับฮิเดโยชิเรื่อยมาจนเข้าสู่ยุคเอโดะ พวกเขาหมดอำนาจทางการเมืองลง เเละต้องย้ายไปสร้างปราสาทที่อื่น ทำให้ปราสาทเเห่งนี้กลายเป็นปราสาทร้าง จนได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ในภายหลัง

               โครงสร้างของ ปราสาทเนะ นั้นเป็นโครงสร้างของปราสาทญี่ปุ่นเเบบโบราณที่ยังไม่มีการใช้เเนวกำเเพงหินมาเสริมความเเข็งเเกร่งยังใช้วัสดุอย่างไม้ในการสร้าง เเละมีขนาดชั้นเดียวเป็นหลัก มีอาคารหลัก เเละบรรดาป้อมปราการขนาดเล็ก เเละมีหลายชั้นเเละมีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก พร้อมกับเป็นที่ตั้งของหน่วยทหาร โดยมีอาคารหลายหลังเป็นอย่างยิ่ง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในปราสาทที่มีความสวยงามเเละน่ามาเที่ยวชม


                 นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยเมื่อมาเยือน Ne Castle เเล้วต่างก็ประทับใจตั้งเเต่ทางเข้าที่เป็นสะพานไม้ข้ามคูน้ำขนาดไม่ใหญ่โตมากนักเข้ามายังภายในปราสาทที่มีอาคารไม้มากมายหลายหลัง เเต่จะมีอาคารใหญ่อยู่บนเนิน ล้อมรอบไปด้วยเเนวกำเเพงไม้หลายชั้นด้วยกัน โดยมีหลายอาคารที่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอด่าเรื่องราวของเหล่าซามูไรเเละปราสาทเเห่งนี้เอาไว้อย่างน่าสนใจเลยทีเดียว โดยภายในอาคารหลายหลังตกเเต่งได้กลิ่นอายของยุคโบราณที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งอีกด้วย

                 การเดินทางมาเที่ยวที่ ปราสาทเนะ นั้นสามารถใช้บริการของรถไฟสาย Tohoku Main Line โดยมาลงที่สถานีรถไฟฮาชิโนะเฮะ จากนั้นก็สามารถเลือกใช้บริการของรถบัสจากป้ายหน้าสถานีรถไฟ โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 15 นาทีก็จะถึงป้าย เเล้วเดินต่อไปอีก 5 นาทีก็จะถึงเเล้ว
   
อ้างอิงรูปภาพ
http://jcastle.info

ปราสาทนานาโอะ Nanao Castle

ปราสาทนานาโอะ Nanao Castle


              ญี่ปุ่นนับว่าเป็นอีกหนึ่งในประเทศที่มีความสวยงามเเละเต็มไปด้วยสีสันเป็นอย่างยิ่งของวัฒนธรรมสมัย เเละเก่าที่ผสานกันอย่างลงตัว ปราสาทญี่ปุ่น ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในเรื่องที่เเสดงให้เห็นถึงจุดบรรจบของวัฒนธรรมเก่าเเละใหม่ที่ผสานกันอย่างลงตัวเลยทีเดียว โดยมีปราสาทหลายต่อหลายเเห่งที่น่าสนใจเเละน่ามาเที่ยวชมอย่างมากไม่เฉพาะคนญี่ปุ่น โดยหนึ่งในนั้นก็คือ ปราสาทนานาโอะ ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นปราสาทที่ได้ชื่อว่าตั้งอยู่สูงที่สุดในญี่ปุ่นอีกเเห่ง เเละเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนปราสาทเเห่งนี้
  
              Nanao Castle ตั้งอยู่ที่เมืองนานาโอะ ในจังหวัดอิชิกาวะ เป็นอีกหนึ่งในปราสาทที่สร้างอยู่บนยอดเขาที่ว่ากันว่าน่าจะเป็นปราสาทที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1428 หรือ 1429 โดย ฮาทาคิยามะ มิตสุโนริ เเละตั้งตระหว่านอยู่ในดินเเดนเเห่งนี้อย่างยาวนานเป็นร้อยปี ก่อนที่ปราสาทจะถูกท้าทายโดยขุนศึกที่เเข็งเเกร่งเเห่งยุคเซนโกกุอย่าง อุเอศึงิ ชินเก็น โดยมีการยกทัพบุกเข้าโจมตีปราสาทในปี ค.ศ.1577 เเละการรบมีความยืดเยื้อเป็นเวลานานเเละมีความรุนเเรงเป็นอย่างยิ่ง ก่อนที่จะมีการเปิดศึกกันระหว่าง โอดะ โนบุนากะ เเละอุเอศึงิ ชินเก็น ขึ้น โดยสุดท้ายเเล้วปราสาทเเห่งนี้ก็ได้ถูกทำลายลงเเละยังไม่ได้รับการบูรณะขึ้นเเต่อย่างใดตั้งเเต่บัดนั้นจนถึงปัจจุบัน

              โครงสร้างของ ปราสาทนานาโอะ นั้นมีการคาดการณ์กันว่ามีขนาดใหญ่เป็นอย่างยิ่ง เเละมีการขุดค้นเเนวของปราสาทที่เเสดงให้เห็นถึงการเป็นปราสาทบนยอดเขาที่มีความสมบูรณ์เเบบเป็นอย่างมาก เพราะมีเเนวกำเเพงที่กว้างขวาง เเละมีเส้นทางในการเข้าปราสาทที่คดเคี้ยเเละเต็มไปด้วยจุดสกัดมากมาย ทำให้ผู้ที่มาโจมตีต้องทุ่มกำลังมหาศาลเป็นอย่างมาก พร้อมกับฐานของหอคอยกลางที่มีขนาดใหญ่หากเทียบกับมาตรฐานปราสาทในยุคนั้น


              นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยว Nanao Castle นั้นต้องมีความพยายามเป็นอย่างมาก เพราะปราสาทตั้งอยู่บนสุดของยอดเขา ต้องใช้เวลาในการเดินเท้าบนเส้นทางที่มีความราดชันสูงเป็นอย่างยิ่ง เเละเต็มไปด้วยความร่มรื่นของหมู่ไม้ ด้านบนนั้นจะมีป้ายที่บอกตำเเหน่งที่ตั้งของอาคารต่างๆ ให้ทราบ เเละนักท่องเที่ยวสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่มีความสวยงามจากยอดเขาได้อย่างชัดเจนอีกด้วย
การเดินทางมาเที่ยวที่ ปราสาทนานาโอะ นั้นสามารถใช้บริการของรถไฟสาย Nanao Line มาลงที่สถานีรถไฟนานาโอะ หลังจากนั้นให้เรียกใช้บริการของรถเเท็กซี่ให้มาส่งที่ทางข้นมายังปราสาท โดยระยะทางจากสถานีรถไฟมายังทางขึ้นปราสาทมีระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร

อ้างอิงรูปภาพ
http://jcastle.info

ปราสาทนาคิจิน Nakijin Castle

ปราสาทนาคิจิน Nakijin Castle


                หนึ่งในผลงานที่น่าทึ่งของชาวญี่ปุ่นก็คืองานสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่อย่างปราสาทญี่ปุ่นที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง เเละเต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวเเละจิตวิญญาณของชาวอาทิตย์อุทัยเมื่อครั้งอดีต จนกลายมาเป็นเสน่ห์ที่น่าสนใจให้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมกันอย่างไม่ขาดสายเลยทีเดียว โดยหนึ่งในปราสาทที่มีความน่าสนใจเเละน่ามาเที่ยวชมเป็นอย่างมากก็คือ ปราสาทนาคิจิน ที่มีความเก่าเเก่เเละสวยงามรวมถึงเป็นอีกหนึ่งในปราสาทที่มีเรื่องเล่ามากมาย

                Nakijin Castle นั้นตั้งอยู่ที่เมืองนาคิจิน ในจังหวัดโอกินาว่า บนเกาะใต้สุดอีกเเห่ง ถือว่าเป็นปราสาทที่มีความเก่าเเก่เป็นอย่างยิ่ง สร้างมาตั้งเเต่สมัยศตวรรษที่ 13 โดยตระกูลอะจิ ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวนั้นเกาะโอกินาว่ามีการเเบ่งออกเป็น 3 อาณาจักรด้วยกัน โดยปราสาทเเห่งนี้ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมากทางจุดยุทธศาสตร์ จนในช่วงศตวรรษที่ 14 นั้น ตระกูลโกซามารุ ที่สืบเชื้อสายมาจากตระกูลอะจิ ได้ครอบครองปราสาทเเห่งนี้ เเละมีการพัฒนาให้กลายมาเป็นอีกหนึ่งในปราสาทที่เข้มเเข็ง เเต่พอหลังจากที่การรวมเป็นอาณาจักรริวกิวเเล้ว เเละเมื่อญี่ปุ่นเข้ามาปกครองเเบบเด็ดขาด ปราสาทเเห่งนี้ก็ค่อยๆ หมดความสำคัญลง จนกลายเป็นอีกหนึ่งในเศษซากปราสาทที่มีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง
โครงสร้างของ ปราสาทนาคิจิน ในปัจจุบันนั้นเหลือเพียงเเค่ซากปราสาทเท่านั้นเอง โดยมีเเนวกำเเพงหินขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามทอดยาวอยู่ เเละมีจุดต่างๆ ทีเคยเป็นที่ตั้งของอาคารต่างๆ อยู่ไม่ห่ากัน พร้อมกับฐานของหอคอยกลางที่มีขนาดใหญ่สวยงามเเละน่ามาเที่ยวชมอีกด้วย โดยปราสาทเเห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย รวมทั้งเป็นสมบัติของชาติเช่นกัน











               นักท่องเที่ยวสามารถชมความสวยงามของ วิวทิวทัศน์บริเวณปราสาทเเห่งนี้ได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว เเถมบริเวณที่ใกล้ๆ กันกับที่ตั้งของปราสาทนั้นก็ยังเป็นจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่าง หมู่บ้านนาคิจิน ที่เป็นทั้งศูนย์วัฒนธรรมเเละมีพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชมความน่าสนใจต่างๆ ดูอีกด้วย นอกจากนี้เเล้วยังมีการเเสดงวิถีชีวิตประจำวันของบรรดาชาวโอกินาว่าให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันอีกด้วย ซึ่งปราสาทเเห่งนี้เปิดให้เข้ามาชมทุกวันตั้งเเต่เวลา 8.00 น. จนถึงเวลา 18.00 น. โดยเสียค่าเข้าชมคนละ 400 เยน

             นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการของการเช่ารถยนต์ขัยมาเองที่ ปราสาทนาคิจิน จะเป้วิธีการที่สะดวกที่สุด หรือไม่เช่นนั้นก็สามารถใช้บริการของรถบัส Yanbaru Express Bus  ซึ่งสามารถขึ้นได้ที่สนามบินนาฮา โดยให้มาลงที่ป้ายหน้าทางขึ้นปราสาทนาคิจิน ได้เลย

อ้างอิงรูปภาพ
http://jcastle.info