ท่องเที่ยว บันเทิง สาระความรู้

ประเภท เครื่องดนตรีสากล



ประเภทของเครื่องดนตรีสากล
                 “เครื่องดนตรีพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายไว้ว่า เป็นเครื่องบรรเลงซึ่งมีเสียงดัง ทำให้รู้สึกเพลิดเพลิน หรือเกิดอารมณ์รัก โศก และรื่นเริงได้ตามทำนองเพลง

ประเภทของเครื่องดนตรีสากล
เครื่องดนตรีสากล ในปัจจุบันนิยมแบ่งเป็นกลุ่มต่าง ๆ ดังนี้
1. กลุ่มเครื่องสาย (String Instruments)
                1.1 เครื่องสายประเภทใช้คันสี ในกลุ่มนี้ประกอบด้วย ไวโอลีน (Violin) วิโอลา (Viola) เซลโล (Cello) และดับเบิลเบส (Double Bass)
                1.2 เครื่องสายประเภทเครื่องดีด (Plucked String) ในกลุ่มนี้ประกอบด้วย ฮาร์พ Harp)ลูท (Lute) กีต้าร์(Guitar) แมนโดลิน (Mandolin) และ แบบโจ Banjo)

                เครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องสาย



                1. ไวโอลิน คือ เครื่องดนตรีที่กำเนิดเสียงในระดับสูงมีทั้งหมด 4 ชนิด คือ ไวโอลิน วิโอลา เชโล และดับเบิลเบส เครื่องดนตรีในตระกูลไวโอลิน คือ เครื่องดนตรีหลักที่ใช้ในวงออร์เคสตร้า ลำตัวไวโอลินทำด้วยไม้ มี 4 สาย ตั้งเสียงต่างกันในระดับคู่ 5 (G , D , A และ E) ปกติจะเล่นโดยใช้คันชักสีที่สายให้สั่นสะเทือน แต่บางครั้งก็จะใช้นิ้วดีด เพื่อให้เกิดเสียงสั่น ไวโอลินจะต้องวางบนไหล่ข้างซ้ายของผู้เล่น แล้วใช้คางหนีบไว้ไม่ให้เคลื่อนที่ มือขวาของผู้เล่นใช้สีสายไวโอลินด้วยคันชัก โดยทั่ว ๆ ไปคันชักจะทำด้วยหางม้า





                2. กีตาร์ (Guitar) กีตาร์ คือ เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสาย เล่นโดยวิธีการดีด เกี่ยว ดึง หรือ กรีด ลงบนสายกีตาร์ อาจใช้นิ้ว หรือ เพล็คทรัมก็ได้ กล่องเสียงของกีตาร์มีลักษณะคล้ายไวโอลินขนาดใหญ่ คอยาว มีเฟลทโลหะคั่นอยู่ มี 6 สาย และมีหมุดยึดสายที่ปลายคอกีตาร์ สายชองกีตาร์มีทั้งที่ทำด้วยโลหะเเละไนล่อน

2. กลุ่มเครื่องลมไม้ (Wood Wind Instruments)
                เครื่องดนตรีกลุ่มเครื่องลมไม้ยังแบ่งได้อย่างกว้าง ๆ เป็น 2 ประเภทคือประเภทเป่าลมเข้าไปในรูเป่า(Blowing into a tube) และประเภทเป่าลมให้ผ่านลิ้นของเครื่องดนตรี (Blowing through a reed) เครื่องลมไม้ประเภทขลุ่ย ยังแบ่งตามลักษณะของการเป่าได้ 2 ประเภทคือ ประเภทเป่าตรงปลาย เช่น ขลุ่ยเรคคอร์เดอร์ ประเภทเป่าด้านข้าง เช่น ฟลูต และปิคโคโล
         2.1 เครื่องดนตรีประเภทปี่ลิ้นคู่ (Double reed) ได้แก่ โอโบ (Oboe) คอร์ แองเกลส์ (Cor Anglais or English horn) บาสซูน (Bassoon) และคอนทราบาสซูนหรือดับเบิลบาสซูน (Contra Bassoon or Double Bassoon)
         2.2 เครื่องดนตรีประเภทปี่ลิ้นเดียว (Single Reed) ประกอบด้วย  คลาริเนต (Clarinet) เบส คลาริเนต (Bass Clarinet) และ) แซกโซโฟน (Saxophone)

               






                เครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องลมไม้






                1. คลาริเนต เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมไม้ ใช้ลิ้นเดียว ปี่คลาริเนตในระดับเสียงบีแฟล็ตได้ถูกใช้เป็นตัวแทนเมื่อมีการกล่าวถึงปี่ คลาริเนตเสมอ คลาริเนตมีใช้อยู่หลายชนิด เช่น บีแฟล็ต คลาริเนต เบส คลาริเนต อีแฟล็ต คลาริเนต เป็นต้น ลำตัวปี่ คลาริเนตทำด้วยโลหะและไม้ หรือบางครั้งก็ทำด้วยยางหรือพลาสติก ลำตัวปี่กลวง เปลี่ยนระดับเสียงโดยใช้นิ้วและคีย์โลหะบุนวมปิดเกิดรู ปี่ คลาริเนตมีรูปร่างคล้ายกับปี่โอโบ แตกต่างกันที่ปากเป่า (กำพวด)คุณภาพเสียงของปี่ คลาริเนต มีช่วงเสียงกว้างและทุ้มลึกมีนิ้วพิเศษที่ทำเสียงได้สูงมากเป็นพิเศษ



                2. แซ็กโซโฟน ใช้กำพวดที่มีลิ้นเดียว เหมือนอย่างปี่คลาริเนตแต่ลำตัวจะเป็นทรงกรวยเหมือนโอโบ ลำตัวทำด้วยโลหะเหมือนเครื่องทองเหลือง ปากลำโพงเค้งงอย้อนขึ้นมา แซ็กโซโฟนขนาดเล็กให้เสียงสูง ขนาดใหญ่ให้เสียงต่ำ เสียงของ แซ็กโซโฟนเป็นลักษณะผสมผสานมีทั้งความพลิ้วไหว ความกลมกล่อมและความเข้มแข็งปะปนกัน






                3. ฟลุท คือ ขลุ่ยชนิดหนึ่งเป็นเครื่องดนตรีอยู่ในกลุ่มเครื่องลมไม้ ฟลุทมีท่อกลวงเกิดเสียงโดยการเป่าลมผ่านส่วนปากเป่า ผู้เล่นต้องถือฟลุทให้ขนานกับพื้น ฟลุทในระยะแรกทำด้วยไม้ ปัจจุบันฟลุททำด้วยโลหะผสม คุณภาพเสียงของฟลุทในระดับสูงมีเสียงแจ่มใสเป่าเสียงในระดับสูงได้ดี เสียงในระดับต่ำมีความนุ่มนวล เหมาะสำหรับใช้บรรเลงเดี่ยวบรรเลงทำนองหลักของบทเพลง และบรรเลงทำนองสอดแทรกต่าง ๆ ในระดับเสียงสูง



                4. ปิคโคโล คือ เครื่องดนตรีในกลุ่มเครื่องลมไม้ เป็นเครื่องดนตรีในตระกูลฟลุท วิธีการเป่าจึงเหมือนกับการเป่าฟลุท ปิคโคโลมีระดับเสียงสูงกว่าฟลุทอยู่ 1ช่วงคู่แปด มีขนาดเล็กกว่าฟลุท 4 เท่า จึงทำให้มีคุณภาพเสียงที่สดใสและแหลมมาก เสียงในระดับต่ำของปิคโคโลจะดังไม่ชัดเจน ปิคโคโลจึงเหมาะที่จะใช้ในการเล่นในระดับเสียงกลางและเสียงสูงมากกว่าใน ระดับเสียงต่ำ







3. กลุ่มเครื่องเป่าประเภทโลหะ หรือเครื่องเป่าทองเหลือง (Brass Wind Instruments)
                 ประกอบด้วย เฟรนช์ฮอร์น (France horn) ทอมโบน (Trombone)
ทรัมเปต  (Trumpet)คอร์เนต (Cornet) ฟลูเกิลฮอร์น (Flugelhorn) ยูโฟเนียม (Euphonium) ทูบา (Tuba) และ ซูซาโฟน (Sousaphone)

เครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องลมทองเหลือง



                1. ทรัมเป็ท คือ เครื่องดนตรีที่จัดอยู่ในประเภทเครื่องลมทองเหลืองกำพวดสำหรับเป่ามีลักษณะ เป็นท่อโลหะบานตรงปลาย คล้ายรูปถ้วย ท่อลมทรัมเป็ทด้านปลายท่อ บานออกเป็นลำโพง เพื่อขยายเสียงให้ดัง ทรัมเป็ทมีลูกสูบ 3ลูกสูบสำหรับเปลี่ยนความสั้นยาวของท่อลม เพื่อเปลี่ยนระดับเสียงดนตรีที่เกิดขึ้น บางครั้งกดเดียง 1 นิ้ว บางครั้ง 2 นิ้ว หรือ 3 นิ้วพร้อมกันเป่าโดยเม้มริมฝีปาก แล้วทำให้ริมฝีปากสั่นสะเทือนในกำพวด เสียงของทรัมเป็ทเป็นเสียงที่มีพังและดังเจิดจ้า ในบทเพลงต่าง ๆ








                2. ทูบา คือเครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมทองเหลืองที่มีระดับเสียงต่ำสุด เครื่องเป่าทองเหลืองที่มีระดับเสียงต่ำเช่นเดียวกับทูบามีอีกจำนวนหนึ่ง เช่น บาริโทน ยูโฟเนียม และซูซาโฟน ทูบามีพัฒนาการมาจากการเป่าเขาสัตว์และการเป่าสังข์ ท่อลมของทูบามีลักษณะค่อย ๆ บานออก ส่วนตรงปลายท่อ บานเป็นลำโพง กำพวดเป็นโลหะรูปถ้วย มีลูกสูบ 3 หรือ 4 ลูกสูบ ทูบามีทั้งในระดับเสียงอีแฟล็ต และบีแฟล็ต




                3. ยูโฟเนียม คือ เครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่าทองเหลือง ลักษณะเสียงของยูโฟเนียมจะนุ่มนวล ทุ้มลึก และมีความหนักแน่นมาก สามารถเล่นในระดับเสียงต่ำได้ดี บางครั้งนำไปใช้ในวงออร์เคสตร้าแทนทูบา คำว่ายูโฟเนียมมาจากภาษากรีกหมายถึง เสียงดีลักษณะทั่วไปของยูโฟเนียมเหมือนกับเครื่องเป่าทองเหลืองทั่วไป จะมีลูกสูบ 3 – 4 ลูกสูบมีกำพวดเป็นรูปถ้วย ท่อลมกลวงบานปลายเป็นลำโพงเสียง มีเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งชื่อ บาริโทนมีเสียงใกล้เคียงกับยูโฟเนียม แต่ท่อลมมีขนาดเล็กกว่า เสียงของบาริโทนจะมีความห้าวมากกว่ายูโฟเนียม พบว่าบ่อยครั้งที่มีการเรียกชื่อสลับกันระหว่างยูโฟเนียมและบาริโทน






                4. ทรอมโบน คือ เครื่องลมทองเหลือง มีคันชักโค้งเป็นรูปตัวยู สำหรับเปลี่ยนความสั้นยาวของท่อลม ตำแหน่งของการเลื่อนคันชักจะมีอยู่ทั้งหมด 7 ตำแหน่ง ให้ระดับเสียงดนตรีต่างกันออกไป ท่อลมกลวงทรงกระบอก ปลายท่อบานออกเป็นลำโพง เป่าโดยใช้กำพวดเป็นรูปถ้วย

4. กลุ่มเครื่องกระทบหรือเครื่องตีประกอบจังหวะ (Percussion Instruments)
        4.1 เครื่องดนตรีมีระดับเสียงแน่นอน ได้แก่ ระฆังราว (Tubular Bells) มาริมบา (Marimba) ไซโลโฟน (Xylophone) และ ไวปราโฟน (Vibraphone)
        4.2 เครื่องดนตรีมีระดับเสียงไม่แน่นอน ประกอบด้วย ฉาบ (Cymbals) ไทรแองเกิล หรือ กิ่ง (Triangle) มาราคัส (Maracas) คาบาซา (Cabaza) กลองใหญ่ (Bass drum) กลองเล็ก (Snare drum) กลองทิมปานี (Timpani) กลองชุด (Drum set) คองก้า(Conga) กลองบองโก (Bongos) แทมบูรีน(Tambourine) และ คาวเบลส์ (Cowbells)

เครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องตีกระทบ


                1. กลองใหญ่ คือ เครื่องตีกระทบ มี 2 หน้า ขึงด้วยหนังกลอง กลองใหญ่ที่ใช้ในวงออร์เคสตร้าจะมีขนาดใหญ่ที่สุดกว่า 32 นิ้ว ถ้าใช้ในวงโยธวาทิตจะมีขนาดตั้งแต่ 20-32นิ้ว ตีด้วยไม้ตี ปลายไม้ข้างหนึ่งทำเป็นปมไว้สำหรับใช้ตีกระทบกับหนังกลองปมนั้นอาจหุ้มด้วย สักหลาด ไม้ก๊อก ผ้านวม หรือ ฟองน้ำ เสียงกลองตีเน้นย้ำจังหวะเพื่อให้เกิดความหนักแน่น หรือ อาจจะใช้รัวเพื่อให้เกิดความตื่นเต้น รัวเพื่อสร้างจุดสนใจในบทเพลงเพิ่มขึ้นก็ได้


                2. กลองเล็ก คือ เครื่องตีกระทบ มี 2 หน้า ขึงด้วยหนังกลอง ลักษณะเฉพาะ คือ หนังกลองด้านล่างต้องคาดไว้ด้วยสายสะแนร์มีทั้งที่ทำด้วยไนล่อนและทำด้วย เส้นลวดโลหะ กลองเล็กมีหลายชื่อ เช่น Snare Drum และ Side Drum และ มีขาตั้งรองรับตัวกลองใช้เป็นส่วนหนึ่งของกลองชุด หรือนำมาใช้บรรเลงประกอบจังหวะสำหรับวงออร์เคสตร้าหรือวงอื่นๆที่นั่งบรรเลง สำหรับวงโยธวาทิตและแตรวง มีตัวยึดกลองทำด้วยโลหะคล้องยึดไว้กับลำตัวของผู้ตี กลองจะอยู่ด้านหน้าของผู้ตีใช้สำหรับดรียกกลองเล็กที่ผู้ตีต้องใช้สายสะพาย คล้องกลองไว้ข้างลำตัว ตะขอที่อยู่ติดกับขอบกลองใช้คล้องเกี่ยวกับตัวกลองไว้กับสายสะพาย ขอบกลองด้านบนอยู่ในระดับเดียวกับเอวชองผู้ตี ตัวกลองอยู่ในลักษณะเฉียงกับสำตัวของผู้ตี



3. กลองทิมปานี เป็นกลองที่มีลักษณะเหมือนกระทะหรือกาต้มน้ำ จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Kettle Drum ตัวกลองทำด้วยทองแดง ตั้งอยู่บนขาหยั่ง กลองทิมปานีมีระดับเสียงแน่นอน เทียบเท่ากับเสียงเบส มีกระเดื่องเหยียบเพื่อเปลี่ยนระดับเสียงตามต้องการในการบรรเบงต้องใช้อย่าง น้อย 2 ใบ เสียงของกลองแสดงอำนาจ ทำให้ความยิ่งใหญ่ ตื่นเต้นเร้าใจ




                4. กลองบองโก เป็นกลองคู่ จะต้องมี 2 ใบเสมอ เล็ก 1 ใบ ใหญ่ 1 ใบ ระดับเสียงของกลอง 2 ใบ ตั้งให้ห่างกันในระดับคู่ 4 หรือ คู่ 5 โดยประมาณ หนังกลองบองโกต้องตั้งให้ตึงกว่ากลองคองกา ตัวกลองติดตั้งอุปกรณ์ ยึดติดให้อยู่คู่กัน ขณะที่ตีกลอง ผู้ตีจะต้องหนีบกลองทั้ง 2 ใบให้อยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างหนีบไว้ด้วยหัวเข่า หรือวางไว้บนขาตั้งโลหะก็ได้ กลองบองโกต้องตีด้วยปลายนิ้วมือ และฝ่ามือ เช่นเดียวกับกลองคองกา

               
                5. แทมบูริน เป็นเครื่องตีกระทบ ประกอบชิ้นด้วยขอบกลม เหมือนขอบกลองขนาดเล็กประมาณ 10 นิ้ว ขอบทำด้วยไม้พลาสติก หรือโลหะ รอบ ๆ ขอบติดด้วยแผ่นโลหะประกบกัน 2 แผ่น หรือติดด้วยลูกกระพรวนเป็นระยะ ใช้การตีกระทบกับฝ่ามือหรือสั่นเขย่าให้เกิดเสียงดังกรุ๋งกริ๋ง เพื่อประกอบจังกวะให้เกิดความสนุกสนาน สดชื่น แทมบูรินบางชนิดจะขึงด้วยหนังเหมือนกลอง 1 ด้านใช้ฝ่ามือตีที่หนัง



                 6. ฉาบ คือ เครื่องดนตรีกระทบ มีหลายลักษณะ บางชนิดใช้ตีคู่ให้เกิดเสียง ผู้ตีต้องลอดมือเข้าไปที่หูร้อยฉาบซึ่งทำสายหนังแบฝ่ามือให้ประกบแนบกับฝา ฉาบตรงส่วนนูนกลางฉาบ แล้วตีกระทบฝาฉาบด้วยมือทั้งสองข้างฉาบบางชนิดจะใช้เพียงข้างเดียวตีด้วยไม้ ตีฉาบประเภทนี้ต้องติดตั้งบนขาตั้ง เช่น ฉาบที่ใช้สำหรับกลองชุด เป็นต้น ฉาบมีหลายขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางมากจะทำให้เกิดเสียงดังและความก้องกังวานมาก ขึ้น


                7. โซโลโฟน คือ เครื่องดนตรีกระทบทีร่มีระดับเสียงแน่นอน เป็นระนาดไม้ขนาดเล็กของดนตรนีตะวันตก ลักษณะทั่วไปจะคล้ายกับมาริมบา หรือ ไวบราโฟน แต่ขนาดเล็กกว่า ลูกระนาดทำด้วยไม้เนื้อแข็ง ใต้ลูกระนาดมีท่อโลหะติดอยู่ เพื่อเป้นตัวขยายเสียง

5. กลุ่มเครื่องคีย์บอร์ด (Keyboard Instruments)
                ประกอบด้วย ) เปียโน (Piano)ออร์แกน (Organ) ฮาร์ปสิคอร์ด (Harpsichord) คลาวิคอร์ด (Clavichord) และแอกคอร์เดียน (Accordion)




เครื่องดนตรีสากลประเภทเครื่องลิ่มนิ้ว



                1. เปียโน เป็นเครื่องดนตรีประเภทคีย์บอร์ด เกิดเสียงโดยการกดคีย์ที่ต้องการ แล้วคีย์นั้นจะส่งแรงไปที่กลไกต่างๆภายในเครื่อง เพื่อที่จะทำให้สายโลหะที่ขึงตึงสั่นสะเทือนทำให้เกิดเสียงดังขึ้น สายเสียงจะถูกตีด้วยค้อน ซึ่งเชื่อมโยงไปยังคีย์ที่กด โดยผ่านเครื่องกลไกที่ซับซ้อนที่เรียกว่า แอ็คชั่น แต่เดิมเปัยโนมีชื่อเรียกว่า เปียโนฟอร์เต ทั้งนี้เพราะ เปียโนสามารถบรรเลงด้วยเสียงเบาและเสียงดังได้อย่างเด่นชัด



                2. ออร์แกน เป็นเครื่องดนตรีคีย์บอร์ดประเภทใช้ลม เมื่อมีลมเป่าผ่านท่อทำให้เกิดเสียงท่อละหนึ่งเสียง ออร์แกนมีแผงคีย์สำหรับกดด้วยนิ้วและแผงคีย์เหยียบด้วยเท้าแผงคีย์ที่กดเล่น ด้วยมือเรียกว่า แมนนวล แผงคีย์ที่เหยียบด้วยเท้า เรียกว่า เพดดัล การบังคับกลุ่มท่อต่างๆซึ่งจะดไว้เป็นพวกเดียวกันทำได้โดยการใช้ปุ่มกด หรือดันยกขึ้นลง ที่เรียกว่า สต็อป ออร์แกนขนาดใหญ่จะมีกลุ่มท่อเปลี่ยนเสียงที่เรียกว่า รีจีสเตอร์ เป็นจำนวนมากเพื่อใช้สร้างสีสันแห่งเสียงได้หลากหลาย ออร์แกนสมัยใหม่ใช้ไฟฟ้าบังคับแกนลมซึ่งตามแบบดั้งเดิมนั้นลมที่ใช้ก็เกิด จากการอัดลมด้วยเท้าของผู้เล่นหรือไม่ก็มีผู้ช่วยอัดลมแทนให้